ป่าอเมซอนเป็นป่าที่สวยงามขนาดใหญ่ และถือเป็นป่าดงดิบที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่โลกมีมา ทั่วบริเวณของอเมซอนถูกปกครองด้วยประเทศทั้ง 7 โดยมีลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่โอบล้อมรอบ มีสัตว์โลกกว่า 1 ใน 10 ที่สามารถพบเห็นได้ในป่าดงดิบอเมซอน มีพื้นที่ประมาณ 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร ถ้าเทียบกับป่าดงดิบที่อื่นๆ บนโลกที่นี่ถือว่ามีระบบนิเวศที่สมบูรณ์สุดในตอนนี้ ในทางทิศตะวันตกของป่าคือภูเขาแอนดีส ส่วนทิศตะวันตกคือมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความใหญ่โตของป่า ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการสำรวจจึงเป็นสถานที่ของเหล่านักเดินป่า และนักสำรวจที่น่าสนใจของคนทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดของกลุ่มคน 300 กลุ่ม
สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความอุมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ หรือพืชพันธุ์ไม้ต่างมีความสำคัญต่อระบบนิเวศที่นี่เป็นอย่างมาก ในพื้นที่ป่านส่วนใหญ่นั้นถูกปกคลุมด้วยความมืด เนื่องจากต้นไม้สูงใหญ่บดบังแสงอาทิตย์จากด้านบน โดยเฉพาะต้นสนที่มีลำต้นสูงเป็นพิเศษ ต้นไม้ที่สูงขนาดนี้จะมีใบขึ้นเฉพาะที่ส่วนบนสุดของมัน เนื่องจากต้องใช้รับแสงแดด ส่วนดินของที่นี่ก็ไม่ได้มีความหนาแน่นมากขั้น ทำให้ต้นไม้ต้องแพ่ขยายรากลึกลงไปในดินอีกทั้งยังกินรัศมีกว้างออกมาอีกด้วย ในส่วนที่มีแสงแดดน้อยที่สุด มักจะพบต้นไม้ที่มีใบขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการดักจับแสงแดดน้อยนิดที่สาดส่องมาถึง
ด้วยความสวยงามจากธรรมชาติ ทำให้อเมซอนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในสายตาชาวโลก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสถานที่ๆ เหมาะกับทุกคน เพราะในป่าดงดิบแห่งนี้มีความอันตรายแฝงอยู่ นักท่องเที่ยวไม่น้อยได้รับอุบัติเหตุตั้งแต่เล็กน้อย จนถึงสาหัส บางคนโชคร้ายถึงแก่ชีวิต แต่หลายคนเลือกตัดสินใจที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ พวกเขาคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะได้ไปผจนภัยในป่าลึกท่ามกลางสัตว์ป่านานาชนิด ทุกปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมากว่า 700 ล้านคน มันเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นการสร้างงานให้กับพื้นที่อย่างเช่น ไกด์ทั่วในหลายๆ พื้นที่ในประเทศที่ติดป่าอเมซอน และตัวเลขพวกนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นอีกสองเท่าภายในปี 2020 ที่จะถึง นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศไม่เพียงจะได้ชมธรรมชาติ แต่ยังได้พายเรือ พักผ่อน และทำกิจกรรมต่างๆ ที่มี ตอนนี้ทางกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกำลังวางแผนเพื่อขยายแหล่งท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเพิ่มต่อในปีต่อๆ ไป ในไม่ช้าป่าอเมซอนจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลก